วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประสาทวัดภู ที่น้องภูไม่ได้ไป 3

ศาลา เดิมเป็นโคปุระรูปสี่เหลี่ยมโล่ง ไม่มีประตู สร้างใกล้กับบาราย สันนิษฐานว่า เมื่อพระเจ้าแผ่นดินมานมัสการพระศิวะ จะต้องเข้ามาโดยใช้เรือ แล้วมาขึ้นที่อาคารนี้ ในปัจจุบัน ถูกรื้อลงมาแล้วสร้างอารสมัยใหม่ขึ้นทับของเดิม เพื่อเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตลาว ที่ทรงพระราชดำเนินมานมัสการวัดพูเมื่อ พ.ศ. 2508           โรงท้าว โรงนาง หรือหอเปลื้อง เป็นอาคารลักษณะเหมือนตัวยู โดยมีทางเข้าด้านหลัง 1 ด้าน และทางออก 2 ด้านทางหน้า มีอาคารอีกหลังสร้างบังด้านหน้าเป็นรูปตัวไอ โดยมีทางเข้า เข้าด้านหน้า 1 ด้าน และทงออก 2 ด้าน ทางหลังทางออกจะตรงกันกับอาคารด้านหลังรูปตัวยูพอดี อาคารทั้งสองจะเหมือนกัน
          เทวสถาน อาคารของเทวสถานนั้น หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีทางเข้าสามประตูด้านหน้า และอีกสองประตูด้านข้างซ้ายและขวา สองข้างอาคารเทวสถานซึ่งตามแผนผังจริงๆ จะเป็นหอคัมภีร์หรือห้องสมุด แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 1 หลังซึ่งอู่ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งในครั้งนี้ บริเวณปราสาทวัดพูนี้ เป็นวัดในพุทธศาสนานั้น ทางวัดได้รื้อหอพระคัมภีร์ทางด้านขวาลง และสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นใหม่  อาคารเทวสถานนี้ มีลวดลายของทับหลังที่สวยงาม และเด่นชัดทุกด้าน โดยที่ยังคงสวยงามมากแห่งหนึ่งในแถบนี้ ภายในอาคาร ได้มีการสร้างพระพุทธรูปไว้เคารพสัการะเมื่อครั้งยังเป็นวัด
  •           นอกจากจะพบกับระเบียงคตด้านหลังที่เป็นรูปตัวยู ยังมีโบราณวัตถุให้ชม ประกอบด้วย

          บ่อน้ำเที่ยง หรือน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีน้ำตลอดทั้งปี ในสมัยก่อนจะต่อท่อเอาน้ำนี้มาใช้รดบนศิวลึงค์
          หินสกัดรูปจระเข้ เกี่ยวข้องกับการบูชายันต์




          รูปตรีมูรติ ซึ่งเป็นเทพเจ้าในศาสนาฮินดู-พรามหณ์ ที่แบ่งแยกให้เห็นว่า ในศิวลึงค์นั้นประกอบไปด้วยเทพ 3 องค์นี้ คือ พระพรหมผู้สร้าง พระนารายณ์ผู้รักษา และพระศิวะผู้ทำลาย    (จบแค่นี้พอสังเขปคราวหน้าว่ากันใหม่นะครับ)  และขอขอบคุณข้อมูลจาก guideubon.com ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ศิลปินหน้าใหม่ : เป้ สีน้ำ

ศิลปินหน้าใหม่ : เป้ สีน้ำ           ความใฝ่ฝันของนักเรียนศิลปะทุกคน คือ การแสดงงาน มันหอมหวาน ดึงดูดใจ และท้าทาย ...